
ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษที่ 80 – 90 ต้องยอมรับเลยว่าช่วงนั้นวงการฟุตบอลอิตาลีเฟื่องฟูมาก นักเตะทุกคนไม่ว่าจะมีชื่อเสียงระดับโลกหรือนักฟุตบอลที่อยากมีชื่อเสียงต่างตบเท้ากันเข้ามาเล่นในลีก Serie A เพราะในตอนนั้นลีก Serie A ของอิตาลีถือว่าเป็นลีกเบอร์หนึ่งของโลกที่มีความหิน ความยาก รวมนักเตะมากฝีเท้าค้าแข่งอยู่มากมาย ฟุตบอลเป็นเรื่องของทีมเวิร์ค ความเข้าใจระหว่างผู้เล่นกับโค้ช หรือความเข้าใจระหว่างตัวนักเตะด้วยกันเอง จะเป็นอย่างไรถ้าเพื่อนร่วมทีมเป็นเพื่อนร่วมชาติเดียวกัน และความเข้าใจความเข้ากันของนักเตะจะนำพาทีมไปพบกับความสำเร็จได้แค่ไหน วันนี้จะมาพูดถึง 3 ประสาน ที่ได้ฉายาว่า “ 3 ทหารเสือแห่ง เอซี มิลาน ”
3 ทหารเสือแห่ง เอซี มิลาน นั้น ได้แก่ มาร์โค ฟาน บาสเท่น (Marco Van Basten) ตำแหน่งกองหน้า รุด กุลลิท (Ruud Gullit) ตำแหน่งกองกลางเพลย์เมคเกอร์ แฟรงค์ ไรจการ์ด (Frank Raijkaard) ตำแหน่งกองกลางตัวรับ ทั้ง 3 คน เป็นนักเตะจากประเทศฮอนแลนด์ เนื่องจากในฤดูกาล 1988/1999 ทางSerie A ได้ประกาศให้นักเตะต่างชาติสามารถลงสนามพร้อมกันได้สูงสุด3คน ในปี1988 แฟรงค์ ไรจการ์ด ได้ย้ายจากทีมสปอร์ติงลิสบอนมาร่วมทัพปีศาจแดงดำ ผลึกกำลังร่วมกับเพื่อนร่วมสัญชาติฮอนแลนด์จีงทำให้เกิด 3 ทหารเสือแห่ง เอซี มิลาน
โดยในตำแหน่งศูนย์หน้า มาร์โค ฟาน บาสเท่น ได้ฉายาว่า “ศูนย์หน้าพราย” เป็นศูนย์หน้าที่มีความคมในการจบสกอร์ และด้วยการยืนตำแหน่งที่เหมาะสม ถูกที่ถูกเวลา สามารถหาจังหวะทำประตูได้ ถึงแม้ว่าคู่แข่งจะรู้ว่ามาร์โค ฟาน บาสเท่น จะเล่นในจังหวะนั้นยังไง แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดมาร์โคไว้ได้ ลงเล่นให้เอซี มิลาน ทั้งหมด 147 นัด ทำประตูทั้งหมด 90 ประตู และเป็นนักเตะเจ้าของรางวัล บัลลงก์ดอร์ 3 สมัย
ส่วนกองกลางเพลย์เมคเกอร์อย่าง รุด กุลลิท เจ้าของฉายา”หัวงูเก็งก็อง” สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในสนาม ไม่ว่าจะเป็นปีก กลางรุก กลางรับ หรือว่ากองหลัง รุด กุลลิท ถือว่าเป็นอัจฉริยะในวงการฟุตบอลคนหนึ่ง และในยุคนั้นถือได้ว่าเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลก และด้วยการจ่ายบอลที่ฉลาด การที่สามารถเลี้ยงหลบคู่แข่งไปทำประตูได้ ลงเล่นให้เอซี มิลาน ทั้งหมด 125 นัด ทำประตูได้ทั้งหมด 38 ประตูและนอกจากนั้นยังสามารถเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นถือได้ว่าเป็นนักเตะที่ครบเครื่อง
และทหารเสือคนสุดท้ายคือ แฟรงค์ ไรจการ์ด นั้น อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากับมาร์โค ฟาน บาสเท่น หรือว่า รุด กุลลิท แต่ถึงอย่างไรแฟรงค์ ไรจการ์ด ถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญเปรียบเสมือนคนที่คอยปิดทองหลังพระ ช่วยเพิ่มระดับเกมรับให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น และคอยเติมเกมรุกเมื่อมีโอกาส คอยคุมเกม ให้การเล่นเกมรับและเกมรุกของเอซี มิลาน สมดุล เปรียบดังหางเสือคอยบังคับทิศทาง และได้ลงเล่นให้เอซีมิลาน ทั้งหมด 142 นัด ทำประตูได้ทั้งหมด 16 ประตู
และด้วยการเล่นด้วยกันอย่างลงตัวของ 3 ทหารเสือแห่งมิลาน ทั้ง 3 คนสามารถทำประตูให้ เอซี มิลาน ได้อย่างถล่มทลาย และสามารถพาเอซี มิลาน เป็นแชมป์ลีกSerie A และได้สร้างสถิติไร้พ่าย และยังเป็นแชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา และเป็นแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัยติดในปี1989 และในปี1990