สำหรับเกม พรีเมียร์ลีก นัดนี้ เชลซี นั้นค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่พอสมควร หลังจากการที่ต้องเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ท่ามกลางเกมที่รวดเร็ว และห้ำหั่นกันด้วยแทคติก และก่อนจบครึ่งแรกต้องพบกับความยากลำบากเมื่อพวกเขาเหลือผู้เล่น 10 คนหลังจากที่ รีซ เจมส์ ถูกไล่ออก พร้อมกับเสียประตูจาก ลูกโทษ อีกด้วย โดยก่อนเกม คู่นี้ถูกมองว่าเป็นการต่อสู้กันของสองทีมที่มีผลงานน่าจับตามองในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เกมรุกน่ากลัวพอกัน ในขณะที่เกมรับก็ยังเป็นจุดเด่นของทั้งสองทีม หลังจากที่เชลซีได้ประตูขึ้นนำ กลับกลายเป็นลิเวอร์พูลที่บุกกดดันอย่างหนักจนได้ประตูตีเสมอ หลังจากนั้นเชลซีก็เล่นเกมรับที่แข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง และสามารถแบ่งแต้มกลับออกไปจากแอนฟิลด์ได้
จังหวะที่น่าสนใจหลังเกม พรีเมียร์ลีก ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอเชลซี 1-1
นอกเหนือจากลูกยิงของ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ที่โหม่งสะบัดให้เชลซีออกนำไปก่อนในนาทีที่ 22 ก่อนที่ท้ายครึ่งแรกจะมีเหตุการณ์ประทุขึ้น เมื่อลิเวอร์พูลได้จุดโทษจากจังหวะแฮนบอลของ รีซ เจมส์ และหลังจากการวิเคราะห์ภาพนิ่งจาก VAR ของผู้ตัดสินในสนาม แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ได้ให้จุดโทษแก่ลิเวอร์พูล และควักใบแดงไล่นักเตะเชลซีอย่างไม่รีรอ หลังจากนั้นเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงจุดโทษเข้าไปก่อนจบครึ่งแรก เริ่มครึ่งหลังมา สิงห์บลูเสีย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จากอาการบาดเจ็บ และเปลี่ยนตัวเอา ติอาโก ซิลวา และ มาเตโอ โควาซิซ ลงมาแทน เพื่อเปลี่ยนวิธีเล่นตามแทคติกของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่จะเน้นเกมรับ และการสวนกลับจากตัวผู้เล่นที่น้อยกว่า ซึ่งก็ตามคาด ลิเวอร์พูลที่มีผู้เล่นมากกว่า สามารถใช้กลยุทธิ์ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ วางไว้กระหน่ำโจมตีเชลซีจากการวางบอลริมเส้น และการเจาะเข้าไปตามช่อง แต่ก็ไม่สามารถทะลุเข้าไปยิงประตูได้ และมีหลายจังหวะที่ผู้รักษาประตูเชลซีอย่าง เมนดี้ โชว์ฟอร์มเซฟช่วยทีมได้อย่างเหลือเชื่อ ทำให้จบเกมทั้งคู่แบ่งแต้มกันไป และเป็นการเสมอนัดแรกในเกม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/2022 ของทั้งคู่อีกด้วย
จบเกมถือว่า ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสเก็บแต้มครั้งใหญ่ และสำหรับ เชลซี ถือว่าทำได้ตามที่หวัง
สำหรับ เชลซี และ โทมัส ทูเคิ่ล แล้วนั้น พวกเขาเกือบที่จะยกพลบุกมาชนะ ลิเวอร์พูล ที่ สนามแอนฟิลด์ ได้เป็นนัดที่สองติดต่อกันได้อยู่แล้วหากไม่เสีย ลูกโทษ ที่น่ากังขา และหลังจากเกิดจุดเปลี่ยนก่อนจบครึ่งแรก นายใหญ่เชลซีไม่รอช้า ด้วยการเสริมประสบการณ์แดนหลังอย่าง ติอาโก ซิลวา ลงมาแพคเกมรับ และช่วยให้เชลซีรักษาสถิติไร้พ่ายใน พรีเมียร์ลีก เอาไว้ได้อีกเกม อีกฝากฝั่งอย่างลิเวอร์พูล เกมนี้พวกเขาอาจถึงขั้นแพ้ได้หากไม่ได้ลูกโทษ เพราะอย่าลืมว่า ช่วงที่ผู้เล่นเท่ากัน ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับเชลซีที่เล่นกันได้อย่างลงตัวได้ง่ายนัก ครึ่งหลังจึงมีการปรับแผน ส่ง ดิโอโก้ โซต้า ลงมาแทน เฟอร์มิโน่ ลงมาเล่นเกมรุกแทน เกมรับพวกเขายังไม่มีปัญหา ตราบใดที่ โจเอล มาติป และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ ยังเอา โรเมลู ลูกากู อยู่ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดี เห็นได้ชัดว่าครึ่งหลัง ลูกากู มีโอกาสง้างเท้ายิงได้แค่ครั้งเดียว และในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสร้างความได้เปรียบเหนือเชลซีที่มีผู้เล่นน้อยกว่าได้ แต่ก็ถือว่าสมเหตุสมผลไม่น้อย เพราะว่าถ้าหากเกมนี้จะมีผู้ชนะ ก็หมายความว่า ต้องมีผู้ที่เล่นได้ดีกว่า แต่ในเมื่อผลที่ออกมาเสมอกัน มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องและยอมรับได้ว่า ลิเวอร์พูลยังดีไม่พอ และเชลซี ยังดีไม่พอที่จะเป็นผู้ชนะเช่นกัน
